top of page

ทางเลือกสำคัญที่ผู้สร้างบ้านควรรู้ประเภทวัสดุปูพื้นห้อง

  • รูปภาพนักเขียน: Decco develop
    Decco develop
  • 28 ก.พ.
  • ยาว 2 นาที

ประเภทวัสดุปูพื้นห้อง ทางเลือกสำคัญที่ผู้สร้างบ้านควรรู้

ทุกครั้งที่ก้าวเท้าเข้าไปในที่พักอาศัย สิ่งแรกที่เท้าของเราจะสัมผัสได้คือวัสดุปูพื้น ซึ่งไม่เพียงช่วยกั้นระหว่างเท้าเรากับพื้นปูนเท่านั้น แต่ยังเสริมให้บรรยากาศภายในห้องดูสวยงามและมีเอกลักษณ์ การเลือกประเภทวัสดุปูพื้นห้องจึงเป็นการตัดสินใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความสวยงาม ความทนทาน และมูลค่าของบ้านในระยะยาว

ดังนั้นบทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับวัสดุปูพื้นหลากหลายประเภท พร้อมข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณอย่างมั่นใจ


1. ประเภทวัสดุปูพื้นห้องพื้นไม้และวัสดุทดแทนไม้ความอบอุ่นและความคลาสสิก


ประเภทวัสดุปูพื้นห้องพื้นไม้และวัสดุทดแทนไม้ความอบอุ่นและความคลาสสิก

พื้นไม้จริง (Solid Wood)


คุณสมบัติหลัก: ไม้ธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นเอกลักษณ์ด้วยลวดลายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ซ้ำแบบ

ไม้ยอดนิยม: ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ตะเคียน ไม้โอ๊ค


  • ข้อดี

    • แข็งแรงทนทานสูง

    • ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสวยงาม

    • ถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็ว

    • เพิ่มมูลค่าให้กับบ้านในระยะยาว


  • ข้อควรระวัง

    • ราคาสูง

    • ต้องการการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ

    • ระวังเรื่องปลวกหรือแมลงกัดกินไม้

    • มีการยืดหดตัวตามสภาพอากาศ


  • เกณฑ์การเลือก: ค่าความแข็ง Janka ยิ่งสูงยิ่งทนต่อรอยขีดข่วน (ไม้สัก: 1,000, ไม้แดง: 1,300, ไม้มะค่า: 1,500)


พื้นไม้ลามิเนต(Laminate) และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์(Engineered Wood)


พื้นไม้ลามิเนต(Laminate) และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์(Engineered Wood)

คุณสมบัติหลัก

  • ไม้ลามิเนต: วัสดุสำเร็จรูปใช้กระดาษพิมพ์ลายไม้เคลือบเมลามีนบนแผ่นไฟเบอร์บอร์ด

  • ไม้เอ็นจิเนียร์: ผิวหน้าไม้จริงประกบกับไม้แข็งแรงเช่นไม้อัดหรือไม้ยางพารา


  • ข้อดี

    • ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา

    • มีสีและลวดลายให้เลือกหลากหลาย

    • ทนทานและให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริง

    • ราคาประหยัดกว่าไม้จริง

    • ไม้เอ็นจิเนียร์ทนความชื้นได้ดีกว่าไม้จริง


  • ข้อควรระวัง

    • ใช้ได้เฉพาะภายในอาคาร

    • ไม่ทนต่อความชื้นสูง เสี่ยงต่อการบวม

    • ลามิเนตไม่สามารถขัดซ่อมได้

    • ไม้เอ็นจิเนียร์ขัดซ่อมได้จำกัด (1-2 ครั้ง)


  • เทคนิคการเลือก: สำหรับลามิเนต เลือกระดับคุณภาพ AC3-AC4 สำหรับที่พักอาศัย และสำหรับไม้เอ็นจิเนียร์ ควรเลือกชั้นไม้ด้านบน (Wear Layer) 3 มม.ขึ้นไป


พื้นไม้พลาสติกคอมโพสิต (WPC/SPC)


พื้นไม้พลาสติกคอมโพสิต (WPC/SPC)

คุณสมบัติหลัก: วัสดุลูกผสมระหว่างไม้หรือหินกับพลาสติก เป็นนวัตกรรมที่ทนความชื้นได้ดี


  • ข้อดี

    • แข็งแรง ทนทาน และกันน้ำ 100%

    • ทนต่อความชื้น ไม่ลามไฟ ไม่ติดไฟ

    • ไม่มีแมลงรบกวน

    • SPC แข็งกว่าและทนทานกว่า WPC


  • ข้อควรระวัง

    • ดูแลรักษาและซ่อมแซมยาก

    • ไม่สามารถทาสีทับได้

    • สีซีดเร็วหากติดตั้งภายนอก

    • WPC นุ่มสบายเท้ากว่า SPC


  • การใช้งานที่เหมาะสม: ทางเดินในสวน ระเบียงบ้าน หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง


2. กระเบื้องและวัสดุเซรามิกความทนทานเหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อน

2. กระเบื้องและวัสดุเซรามิกความทนทานเหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อน

กระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องพอร์ซเลน


กระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องพอร์ซเลน

คุณสมบัติหลัก

  • กระเบื้องเซรามิก: ผลิตจากดินเผา มีค่าการดูดซึมน้ำสูง (3-7%)

  • กระเบื้องพอร์ซเลน: มีความหนาแน่นสูง แข็งแรงกว่าเซรามิก ดูดซึมน้ำน้อยกว่า (<0.5%)


  • ข้อดี

    • แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน

    • ทนต่อความชื้นและรอยขีดข่วน

    • มีให้เลือกหลายสีสันและลวดลาย

    • ทำความสะอาดง่าย

    • เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในเมืองไทย


  • ข้อควรระวัง

    • อาจลื่นเมื่อเปียกน้ำ

    • พื้นผิวแข็ง เดินแล้วอาจรู้สึกไม่สบายเท้า

    • ติดตั้งต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์

    • รอยต่อระหว่างกระเบื้อง (ยาแนว) สะสมสิ่งสกปรกได้ง่าย


  • เทคนิคการเลือก: ค่า PEI 3-4 เหมาะกับพื้นที่ใช้งานทั่วไป, PEI 5 สำหรับพื้นที่การใช้งานหนัก


กระเบื้องแกรนิตโต้

กระเบื้องแกรนิตโต้

คุณสมบัติหลัก: กระเบื้องเนื้อแกรนิตเทียม มีความแข็งแรงสูง ลวดลายเลียนแบบหินธรรมชาติ


  • ข้อดี

    • แข็งแรงกว่ากระเบื้องทั่วไป

    • มีความหรูหรา ดูมีมูลค่า

    • ผิวมันวาว ให้ความรู้สึกโอ่อ่า

    • มีหลายขนาดรวมถึงขนาดใหญ่พิเศษ


  • ข้อควรระวัง

    • ราคาสูงกว่ากระเบื้องทั่วไป แต่ถูกกว่าหินแกรนิตจริง

    • ต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาเฉพาะ

    • การตัดต้องใช้เครื่องมือพิเศษ


  • การใช้งานที่เหมาะสม: ห้องโถง พื้นที่ส่วนกลาง ห้องนั่งเล่น


3. หินธรรมชาติและวัสดุหรูหราความพรีเมียมที่ยั่งยืน


 หินธรรมชาติและวัสดุหรูหราความพรีเมียมที่ยั่งยืน

หินอ่อน (Marble) และหินแกรนิต (Granite)


หินอ่อน (Marble) และหินแกรนิต (Granite)

คุณสมบัติหลัก

  • หินอ่อน: หินแปรที่มีเนื้อสัมผัสละเอียด ผิวสัมผัสเย็น ลวดลายเป็นเอกลักษณ์

  • หินแกรนิต: หินอัคนีที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวา มีเนื้อหยาบ ทนทานต่อรอยขีดข่วน


  • ข้อดี

    • หรูหรา สวยงาม ลวดลายเป็นเอกลักษณ์

    • ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน

    • ไม่กักเก็บความร้อน ระบายความร้อนได้ดี

    • เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน


  • ข้อควรระวัง

    • ราคาสูง

    • หินอ่อนเป็นรอยง่าย ต้องเคลือบซีลเลอร์ทุก 1-2 ปี

    • น้ำหนักมาก ต้องมีโครงสร้างรองรับที่แข็งแรง

    • ผิวสัมผัสลื่นเมื่อโดนน้ำ


  • การใช้งานที่เหมาะสม

    • หินอ่อน: ห้องรับแขก โถงทางเข้า พื้นที่ที่ต้องการความหรูหรา

    • หินแกรนิต: พื้นที่ใช้งานหนัก ระเบียง พื้นที่ภายนอก


วัสดุหินธรรมชาติอื่นๆ

วัสดุหินธรรมชาติอื่นๆ

  • ประเภท: หินสเลต หินทราย หินควอทซ์


  • ข้อดี: แต่ละชนิดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสี พื้นผิว และความทนทาน


  • ข้อควรรู้: เลือกตามคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น หินสเลตทนทานแต่ผิวไม่เรียบ

 

4. วัสดุไวนิลและกระเบื้องยางนวัตกรรมทางเลือกที่น่าสนใจ


4. วัสดุไวนิลและกระเบื้องยางนวัตกรรมทางเลือกที่น่าสนใจ

พื้นไวนิลและกระเบื้องยาง

พื้นไวนิลและกระเบื้องยาง

คุณสมบัติหลัก: วัสดุปูพื้นที่ผลิตจาก PVC (Poly Vinyl Chloride) มีความยืดหยุ่น และมาในหลายรูปแบบ


  • รูปแบบหลัก

    • กระเบื้องยาง (Vinyl Tile): แผ่นสี่เหลี่ยม ขนาด 30x30, 45x45, 60x60 ซม.

    • ไวนิลแบบแผ่น (LVT/LVP): ลวดลายสมจริง เลียนแบบไม้หรือหิน

    • ไวนิลแบบม้วน (Sheet Vinyl): ไร้รอยต่อ กันน้ำสมบูรณ์ ราคาประหยัด


  • ข้อดี

    • ทนน้ำ 100%

    • นุ่มและยืดหยุ่น ให้ความสบายเท้า

    • ดูดซับเสียงได้ดี ลดเสียงสะท้อน

    • ติดตั้งง่าย มีแบบกาวในตัว

    • มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย


  • ข้อควรระวัง

    • อาจเกิดการหดตัวหรือขยายตัวเมื่อโดนความชื้นสูง

    • อาจเกิดรอยบุบจากเฟอร์นิเจอร์หนัก

    • อ่อนไหวต่อความร้อนและแสงแดดโดยตรง

    • คุณภาพต่ำอาจปลดปล่อยสารระเหยที่เป็นอันตราย


  • เกณฑ์การเลือก

    • ความหนาของชั้นผิวสึกหรอ (ควรเลือก 0.3 มม.ขึ้นไปสำหรับที่พักอาศัย)

    • มาตรฐานด้านสุขภาพ: เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง Low VOCs


  • การใช้งานที่เหมาะสม: เหมาะกับทุกห้อง โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ

  

5. พื้นปูนและวัสดุนวัตกรรม ทางเลือกสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


5. พื้นปูนและวัสดุนวัตกรรม ทางเลือกสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

พื้นปูนขัดมัน (Polished Concrete) และพื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy Flooring)


คุณสมบัติหลัก

  • พื้นปูนขัดมัน: พื้นคอนกรีตที่ผ่านการขัดด้วยเครื่องขัดความละเอียดสูง

  • พื้นอีพ็อกซี่: พื้นเคลือบเรซินสังเคราะห์ที่มีความแข็งแกร่งสูง


ข้อดี

  • พื้นผิวเรียบ ไร้รอยต่อ ทำความสะอาดง่าย

  • ทนทานต่อการใช้งานหนัก

  • ให้ความรู้สึกทันสมัยและมีเอกลักษณ์

  • สามารถเพิ่มสีหรือลวดลายได้ตามต้องการ


ข้อควรระวัง

  • เป็นพื้นผิวแข็ง อาจไม่สบายเท้าเมื่อยืนนาน

  • อาจแตกร้าวได้หากโครงสร้างมีการทรุดตัว

  • ต้องการการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ

  • พื้นอีพ็อกซี่อาจลื่นเมื่อเปียก


ประเภทย่อย

  • พื้นปูนเปลือย (Exposed Concrete): ลุคดิบ สไตล์อุตสาหกรรม

  • พื้นปูนมิกซ์เทอร์ (Microtopping): ความบางพิเศษ ทับพื้นเดิมได้


ประเภทวัสดุปูพื้นห้องนวัตกรรมและทางเลือกเพื่อความยั่งยืน

ประเภทวัสดุปูพื้นห้องนวัตกรรมและทางเลือกเพื่อความยั่งยืน

  • พื้นไม้ไผ่ (Bamboo Flooring)

    • แข็งแรงกว่าไม้ทั่วไป 3 เท่า เติบโตเร็ว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

    • ต้องเลือกไม้ไผ่ที่ผ่านการรมควันและอบแห้งเพื่อป้องกันปลวก


  • พื้นคอร์ก (Cork Flooring)

    • ทำจากเปลือกต้นโอ๊คคอร์ก นุ่มสบายเท้า เก็บเสียง

    • ต้านทานเชื้อราและแบคทีเรีย ลดอาการภูมิแพ้


  • พื้นยางสังเคราะห์ (Synthetic Rubber Flooring)

    • นุ่ม ปลอดภัย ดูดซับแรงกระแทก

    • เหมาะสำหรับพื้นที่เล่นสำหรับเด็ก สระว่ายน้ำ ฟิตเนส


  • นวัตกรรมพื้นรุ่นใหม่

    • พื้นอัจฉริยะผลิตพลังงาน (Energy-Harvesting Flooring)

    • พื้นที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ (Antimicrobial Flooring)

    • พื้นเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ (Thermochromic Flooring)


บทสรุป


การเลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะสมควรพิจารณาปัจจัยหลายด้าน ทั้งสภาพการใช้งาน งบประมาณ การดูแลรักษา และความสอดคล้องกับสไตล์การตกแต่ง วัสดุแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจเหมาะกับพื้นที่และความต้องการที่แตกต่างกัน

กลยุทธ์ที่ดีคือการผสมผสานวัสดุปูพื้นหลายประเภทในบ้านหลังเดียวกัน เช่น ใช้กระเบื้องในห้องน้ำและห้องครัว ใช้ไม้หรือลามิเนตในห้องนอน และอาจใช้กระเบื้องยางในห้องเด็กเล่น วางแผนงบประมาณให้ครอบคลุมทั้งค่าวัสดุ ค่าติดตั้ง และวัสดุสำรอง (บวกเพิ่ม 10-15%) เพื่อรองรับการติดตั้งและการซ่อมแซมในอนาคต


บทปิดท้าย

ขอบคุณที่ติดตามบทความเกี่ยวกับประเภทวัสดุปูพื้นนี้จนจบ หวังว่าข้อมูลที่นำเสนอจะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะสมกับบ้านหรือโครงการก่อสร้างของคุณได้อย่างมั่นใจ

การลงทุนกับวัสดุปูพื้นอย่างถูกต้องไม่เพียงสร้างความสวยงามและความสะดวกสบายในปัจจุบัน แต่ยังส่งผลต่อมูลค่าของทรัพย์สินในระยะยาว ท่านสามารถนำความรู้จากบทความนี้ไปประกอบการพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อวัสดุปูพื้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน


หมายเหตุ ข้อมูลในบทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติเท่านั้น ขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญก่อนนำไปใช้ทุกครั้ง เพื่อให้คุณมีธุรกิจที่มีคุณภาพมีมาตรฐาน ลดข้อผิดพลาดที่จะตามมาทีหลัง ให้คุณได้รู้รายละเอียดของงานที่กำลังดำเนินงานได้อย่างโปร่งใส เพื่อการทำธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป


DeccoDesign เราสร้างสรรค์ผลงาน ยกระดับมาตรฐานงานออกแบบทุกประเภทร้าน มีการทำงานอย่างเป็นระบบแบบมืออาชีพ ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศแบบ One Stop Service ครบจบในที่เดียว ด้วยประการณ์การทำงานมากกว่า 20 ปี สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน


ติดต่อเราได้ที่

———————————————

LINE : @deccodesign

Facebook Official: Decco Design

Tel. 093-424-1559 / 063-896-0577

 
 
 

Comentarios


bottom of page